ผู้ที่จะปลูกถ่ายไต ควรเตรียมตัวอย่างไร
➤การปลูกถ่ายไต คือการรักษาผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย โดยการใช้ไตจากผู้อื่นให้มาทำหน้าที่แทนไตเก่าของผู้ป่วยที่สูญเสียหน้าที่ไปอย่างถาวรแล้ว ปัจจุบันถือเป็นการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ระยะสุดท้ายทั้งในวัยเด็กและผู้ใหญ่ เนื่องจากถ้าไตใหม่ทำ
หน้าที่ได้ดีแล้ว สามารถทดแทนไตเดิมได้สมบูรณ์ คุณภาพชีวิตจะดีขึ้น รวมทั้งอายุที่ยืนยาวกว่าการรักษา
➤มีทางเลือกอื่นหรือไม่นอกจากการปลูกถ่ายไต
ผู้ป่วยที่ไม่สามารถปลูกถ่ายไตได้ ด้วยเหตุผลใดก็ตามสามารถรักษาทดแทนไตด้วยวิธีอื่นได้ เช่นการฟอกเลือดโดยใช้เครื่องไตเทียม การล้างช่องท้องด้วยน้ำยา หรือ แม้แต่การรักษาทางยา ถึงแม้ประสิทธิภาพในการรักษาจะไม่ดีเท่าที่ควร แต่ก็จะช่วยให้อาการผู้ป่วยทุเลาลงได้บ้าง
ยากับโรคไต คลิกดูรายละเอียด https://www.blogger.com/blogger.g?blogID=2510461794169864354#editor/target=post;postID=7829613307468469260;onPublishedMenu=allposts;onClosedMenu=allposts;postNum=6;src=postname
➤ใครที่ปลูกถ่ายไตไม่ได้
➧ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ มีปฏิกริยาต่อต้านไตใหม่
➧ผู้ป่วยที่ติดยาเสพติด โรคจิตเภท
➧ผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อในกระแสเลือด การติดเชื้อไวรัสที่มีอาการรุนแรง เช่น โรคไวรัสตับอักเสบชนิด บี/ ซี
โรคไวรัสเอดส์
➧ผู้ป่วยที่มีโรคทางกายอยู่เดิม เช่นเบาหวานระยะลุกลาม โรคตับอักเสบระยะรุนแรง โรคหัวใจล้มเหลว
ระยะรุนแรง แผลในกระเพาะอาหารระยะรุนแรง ตับอ่อนอักเสบ
➧ช่วงอายุ > 65 ปี หรือในเด็กอายุ < 5 ปี
➧มีโรคไตที่จะเกิดซ้ำได้ในไตใหม่ถ้าเปลี่ยนไต เช่น ออกซวโลซิส
➧มะเร็งระยะลุกลาม
➧ความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะที่ยังแก้ไขไม่ได้
➧ไม่มีความรับผิดชอบต่อตนเอง เช่น ไม่กินยาอย่างสม่ำเสมอ ไม่มาพบแพทย์ตามที่นัดตรวจ
➧ผู้ป่วยโรคหอบหืด/โรคเอสแอลอี/โรคหัวใจ ต้องไม่อยู่ในช่วงระยะรุนแรงกำเริบอยู่
➤ลำดับอาการของผู้ป่วยจนถึงการรอการเปลี่ยนไต
➧แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยไตวานเรื้อรังระยะสุดท้าย
➧ซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจทางหัวใจ ตรวจสภาพจิตใจ
➧เจาะเลือดตรวจหน้าที่ของไต / ตับ / ตับอักเสบ บี -ซี / ซิฟิลิส / เอช ไอ วี
➧ตรวจเนื้อเยื่อ
➧การลงทะเบียนรอ
➧ส่งเลือดตรวจทุก 2 เดือน (ตรวจหาภูมิคุ้มกัน)/ตรวจร่างกายทุก 2-3 เดือน
➧การลงทะเบียนรอ พร้อมรับการเปลี่ยนถ่าย
➧ผู้ป่วยที่ติดยาเสพติด โรคจิตเภท
➧ผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อในกระแสเลือด การติดเชื้อไวรัสที่มีอาการรุนแรง เช่น โรคไวรัสตับอักเสบชนิด บี/ ซี
โรคไวรัสเอดส์
➧ผู้ป่วยที่มีโรคทางกายอยู่เดิม เช่นเบาหวานระยะลุกลาม โรคตับอักเสบระยะรุนแรง โรคหัวใจล้มเหลว
ระยะรุนแรง แผลในกระเพาะอาหารระยะรุนแรง ตับอ่อนอักเสบ
➧ช่วงอายุ > 65 ปี หรือในเด็กอายุ < 5 ปี
➧มีโรคไตที่จะเกิดซ้ำได้ในไตใหม่ถ้าเปลี่ยนไต เช่น ออกซวโลซิส
➧มะเร็งระยะลุกลาม
➧ความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะที่ยังแก้ไขไม่ได้
➧ไม่มีความรับผิดชอบต่อตนเอง เช่น ไม่กินยาอย่างสม่ำเสมอ ไม่มาพบแพทย์ตามที่นัดตรวจ
➧ผู้ป่วยโรคหอบหืด/โรคเอสแอลอี/โรคหัวใจ ต้องไม่อยู่ในช่วงระยะรุนแรงกำเริบอยู่
➤ลำดับอาการของผู้ป่วยจนถึงการรอการเปลี่ยนไต
➧แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยไตวานเรื้อรังระยะสุดท้าย
➧ซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจทางหัวใจ ตรวจสภาพจิตใจ
➧เจาะเลือดตรวจหน้าที่ของไต / ตับ / ตับอักเสบ บี -ซี / ซิฟิลิส / เอช ไอ วี
➧ตรวจเนื้อเยื่อ
➧การลงทะเบียนรอ
➧ส่งเลือดตรวจทุก 2 เดือน (ตรวจหาภูมิคุ้มกัน)/ตรวจร่างกายทุก 2-3 เดือน
➧การลงทะเบียนรอ พร้อมรับการเปลี่ยนถ่าย
ทางเลือกผู้ป่วยไต บำรุง ฟื้นฟูไต ปลอดภัย
ไม่มีผลข้างเคียง คลิ๊กเลย http://www.hrtexo.com/umikidney