วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2559
การดูแลตนเองหลังจากฟอกไต
วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2559
"ความเค็ม" สาเหตุของโรคไต
วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2559
ไตวาย ไม่ทันรู้ตัว
วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2559
หน้าที่ การทำงานของไต
การทำงานของไตจะแบ่งออกเป็นสองขั้นตอน
ขั้นแรกเลือดที่เข้าไปที่ไตจะกรองโดยหน่วยไตที่เล็กที่สุดที่เรียกว่า glomeruli ซึ่งจะกรองเอาของเสียออกไป ส่วนเม็ดเลือดแดง โปรตีน จะไม่ออกนอกเส้นเลือด
การทำงานที่ท่อไตซึ่งจะทำหน้าที่ดูดซึมน้ำ และเกลือแร่ที่สำคัญกลับเข้าสู่กระแสเลือด
ไต มีหน้าที่อะไร
ไตเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกายในการขับของเสีย และควบคุมปริมาณสารน้ำและเกลือแร่ในร่างกายให้สมดุล ปกติมีรูปร่างคล้ายเมล็ดถั่วเท่ากำปั้น มีอยู่ 2 อัน ถ้าไตข้างใดข้างหนึ่งเสียไตอีกข้างสามารถทำหน้าที่แทนได้ เมื่อไตเสียหน้าที่ทั้ง 2 ข้าง คือไม่สามารถกรองของเสียหรือที่เรียกว่าไตวายก็จะเกิดอาการซึ่งเกิดจากการคั่งของของเสีย และการคั่งของน้ำและเกลือแร่และการเสียสมดุลของฮอร์โมนของร่างกาย
1.กำจัดของเสีย เมื่อเรารับประทานอาหารเข้าไป เช่นพวกเนื้อสัตว์ซึ่งเป็นอาหารพวกโปรตีนซึ่งจะถูกย่อยสลายเป็นยูเรีย นอกจากนั้นเนื้อเยื่อเราก็มีการสร้างและสลายตามธรรมชาติกล้ามเนื้อที่สลายก็ทำให้เกิด ครีเอดินิน ซึ่งหากเกิดการคั่งก็จะทำให้เกิดอาการซึม มึนงง เบื่ออาหาร อาเจียน หมดสติ
2.ดูดซึม และเก็บสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายไว้ สารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายจะถูกดูดกลับโดยเซลล์ของหน่วยไต เช่น น้ำ ฟอสเฟต โปรตีน แคลเซี่ยม
3.รักษาสมดุลน้ำของร่างกาย ถ้าน้ำมีมากเกินความต้องการของร่างกายเช่นดื่มน้ำมากไป ไตจะทำหน้าที่ขับน้ำออกมาทางปัสสาวะ แต่ถ้าอยู่ในภาวะขาดน้ำเช่นท้องร่วง อาเจียน เสียเหงื่อ หรือมีเลือดออกมาก ไตจะพยายามสงวนน้ำไว้ให้ร่างกายโดยการดูดซึมน้ำกลับทำให้ปัสสาวะจะมีปริมาณน้อยและเข้มข้น
4.รักษาสมดุลเกลือแร่ของร่างกาย ไตที่ปกติจะขับเกลือส่วนเกินได้เสมอ แม้จะรับประทานรสเค็มจัด แต่ถ้าเสื่อมสมรรถภาพทำให้ไม่สามารถขับเกลือส่วนเกิน ผู้ป่วยจะมีอาการบวมถ้ารับประทานเกลือมากเกินไป และอาจจะเกิดน้ำท่วมปอด
5.รักษาสมดุลกรดด่างของร่างกาย ร่างกายจะผลิตกรดทุกวัน จากการเผาผลาญอาหารโปรตีน ถ้าไตทำหน้าที่ปกติจะไม่มีกรดคั่ง ถ้าไตเสื่อมสมรรถภาพ ร่างกายจะมีปัสสาวะเป็นกรด หากมีการคั่งของกรดจะทำให้เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน และหายใจหอบ
6.ควบคุมความดันโลหิต ความดันโลหิตสูงเกิดจากความผิดปกติในการควบคุมสมดุลน้ำและเกลือรวมถึงสารบางชนิดผู้ป่วยโรคไต จึงมักมีความดันโลหิตสูง เพราะไตถูกกระตุ้นให้สร้างสารที่ทำให้ความดันสูง ถ้าความดันโลหิตสูงมากทำให้หัวใจทำงานหนักหรืออาจเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบหรือ แตกเป็นอัมพฤกษและอัมพาตได้
7.ผลิตและควบคุมการทำงานของฮอร์โมน เช่นฮอร์โมนที่ควบคุมปริมาณแคลเซี่ยม และฮอร์โมนที่กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง ถ้าเป็นโรคไต การสร้างฮอร์โมนจะบกพร่องไป ฮอร์โมนที่ไตผลิตได้แก่
Erythropoietin ทำหน้าที่กระตุ้นไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดแดง
Renin ทำหน้าที่ควบคุมความดันโลหิต
vitamin D ทำหน้าที่สร้างกระดูก
วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2559
ค่าที่ควรรู้ เมื่อ ไตเสื่อม
อาการของโรคไตเรื้อรัง
วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
เมื่อ หมอบอกว่า ไตเสื่อม...ไตเสื่อม คือ อะไร??
ยา กับ โรคไตเสื่อม
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่ายานั้นมีคุณค่ามหาศาล ถ้าเราใช้ให้ถูกวิธี จะใช้บำบัดโรคได้หลายชนิด โดยไม่มีโทษภัยหรือมีน้อย แต่บ้านเราการที่ประชาชนมีเสรีในการซื้อยาใช้เองได้สารพัดชนิด โดยที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจเท่าใดนัก อาจก่อให้เกิดอันตรายจากยาได้ง่าย มีคนจำนวนมากมายที่ต้องตายไปเนื่องจากใช้ยาอย่างไม่ถูกต้อง
ไต เป็นอวัยวะที่มีหน้าที่ขับถ่ายของเสียและสารต่าง ๆ ที่ร่างกายไม่ต้องการออกไป โดยขับถ่ายออกมาเป็นปัสสาวะ โดยปกติไตเป็นอวัยวะที่ถูกทำลายด้วยสารเคมีได้ง่ายดายมาก ถ้าไตถูกทำลายให้เสียไป ความสามารถในการขับถ่ายจะเสียไปด้วย เราจะมีของเสียสะสมในร่างกายเพิ่มขึ้นมากมาย ซึ่งจะทำให้ร่างกายทรุดโทรมอวัยวะต่าง ๆ ทำงานไม่เต็มที่ และอาจต้องตายไปในที่สุด
ยาเป็นพิษต่อไตได้อย่างไร
ด้วยเหตุนี้เอง ไตจึงเป็นอวัยวะที่มีโอกาสที่จะได้รับพิษจากยาได้มากมียาหลายตัวที่เป็นพิษต่อไตโดยตรง พิษของยาต่อไตก็มีในแบบต่าง ๆ กัน บางชนิดทำให้ไตทำงานลดลง บางชนิดตกเป็นผลึกในไต และบางชนิดทำให้เนื้อไตเสียไป พิษที่เกิดนี้อาจเป็นอย่างถาวร คือ ถึงแม้จะเลิกกินยาแล้วก็ไม่หาย เป็นจนตายไปเลย
นอกจากนี้ในคนไข้ที่ไตเสื่อมหรือไตพิการ คือ ไตที่ทำงานได้ไม่เต็มที่ เวลากินยายิ่งต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจทำให้ไตที่พิการนั้นมีอาการกำเริบมากขึ้น ดังนั้นคนที่เป็นโรคไต ถ้าจำเป็นต้องใช้ยาจะต้องลดขนาดและช่วงเวลาในการกินยาให้เหมาะสม
นิยมกินแก้ปวดหัว ตัวร้อน แก้ปวดเมื่อยและเพิ่มกำลังวังชา ถ้าไม่ได้กินจะรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง ทำงานไม่ไหว โดยหารู้ไม่ว่ายาตัวนี้ ถ้ากินเป็นเวลานาน ๆ ถึงแม้จะใช้ในขนาดปกติ ก็มีโอกาสจะเกิดพิษต่อไตได้
ยาซัลฟาใช้รักษาอาการอักเสบจากเชื้อโรค เช่น เจ็บในคอ เป็นฝีพุพองหรือเป็นหนอง แทบทุกตัวจะตกตะกอนในปัสสาวะและเป็นผลึกในไตและท่อปัสสาวะทำให้เกิดระคายเคืองมาก และกีดขวางทางเดินปัสสาวะ จะเริ่มด้วยมีอาการปวดท้องบริเวณไต เวลาถ่ายจะมีเกล็ดของยาปนออกมากับปัสสาวะ เวลาถ่ายจะแสบ ต่อมา ถ่ายปัสสาวะเป็นเลือดถ่ายลำบาก
ยากลุ่มนี้เป็นยาที่เราใช้กินฆ่าเชื้อเวลาเจ็บคอ หรือเวลาเป็นแผล ฝี หนองนั่นเอง ยากลุ่มนี้มีหลายชนิดมาก ส่วนใหญ่จะทำเป็นรูปแคปซูล ยากลุ่มนี้มักกินพร่ำเพรื่อเป็นยาครอบจักรวาล
ยากลุ่มนี้ต้องหลีกเลี่ยง ไม่ควรใช้ในผู้ป่วยโรคไต สเตร๊ปโตมัยซิน ในขนาดปกติไม่ค่อยทำให้เกิดพิษต่อไต และเมื่อหยุดยาอาการพิษก็หายไป แต่ต้องระวังในขนาดสูง ๆ อาจเกิดพิษได้ส่วนกาน่ามัยซิน และเจนต้ามัยซิน จะเกิดพิษได้รุนแรงกว่า ทำให้เกิดเนื้อไตวาย ถ่ายปัสสาวะไม่ออกเกิดของเสียคั่งในเลือดมาก
วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
เคล็ดลับ การเลือก อาหารสำหรับ ผู้ป่วยไต
ไม่มีผลข้างเคียง คลิ๊กเลย http://www.hrtexo.com/umikidney
วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
7 วิธีห่างไกล โรคไต
- 1. เลือกอาหารที่มีคุณค่า สุกสะอาด และมีประโยชน์ หลีกเหลี่ยงการกินอาหารไขมันสูง ไม่กินโปรตีนมากจนเกินไปเพราะจะทำให้ไตเสื่อม และไม่กินอาหารน้อยไปจนเกิดภาวะขาดสารอาหาร หลีกเหลี่ยงอาหารหมักดอง อาหารกระป๋อง และอาหารรสจัด การกินเค็มมากไปจะทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อกำจัดเกลือส่วนเกินออก กินผักและผลไม้ให้มาก
2. ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร หรือ 6-8 ถ้วยต่อวัน การดื่มน้อยไปจะทำให้ไตเสื่อม มากไปจะทำให้หัวใจวาย ควรเลือกเดินทางสายกลาง
3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เลือกออกกำลังกายอย่างเหมาะสมซึ่งสามารถกระทำได้ทั้งในคนปกติและผู้ที่เป็นโรคไต ได้แก่ การเดิน ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิค หรือการออกกำลังกายอื่นๆ ที่ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่อย่างต่อเนื่อง การออกกำลังกายที่ดีควรจะต้องทำการอบอุ่นร่างกายหรือเรียกว่า “วอร์มอัพ” ก่อนประมาณ 5-10 นาที ตามด้วยการออกกำลังอย่าง ต่อเนื่องอีก 5-30 นาที
4. พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน การนอนพักผ่อนที่ไม่เพียงพอจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นซึ่งมีผลกระทบทางอ้อมต่อไตทำให้ไตเสื่อมเร็วยิ่งขึ้น
5. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ผู้ที่อ้วนเกินไปจะทำให้ไตทำงานหนัก ทำให้ไตเสื่อมหน้าที่เร็วขึ้น เพราะภาวะอ้วนจะทำให้โปรตีนรั่วในปัสสาวะเพิ่มขึ้นจากการกดทับหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงไตทำให้ความดันภายในไตสูงขึ้น โปรตีนที่รั่วนี้จะเป็นตัวทำลายไต การเปลี่ยนแปลงนี้จะดีขึ้นถ้าน้ำหนักตัวลดลง
6. หลีกเหลี่ยงสารเสพติด รวมถึงบุหรี่และแอลกอฮอล์ นอกจากสารเสพติดจะทำลายสุขภาพโดยรวมแล้วยังทำลายไต โดยตรง การดื่มแอลกอฮอล์จะมีผลเสียต่อทั้งตับและไต โดยเฉพาะคนที่ป่วยโรคไตควรเลิกดื่มจะดีที่สุด
7. หลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานๆ บ่อยครั้งที่คนเราต้องกลั้นปัสสาวะนานๆ บางคนที่ชอบกลั้นปัสสาวะ ทั้งๆ ที่สามารถไปห้องน้ำได้ ที่พบบ่อยในปัจจุบัน ได้แก่ เด็กวัยรุ่นที่เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ พบว่าการกลั้นปัสสาวะนานๆ เป็นต้นเหตุให้เชื้อโรคแทรกซึมเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะและเกิดการอักเสบของท่อทางเดินปัสสาวะ ในบางรายทำให้เกิดโรคไตอักเสบเฉียบพลันได้
โรคไต เสื่ยงทุกวัย เป็นได้ทุกคน
ไต อวัยวะที่เปรียบได้กับโรงบำบัดของเสียที่ต้องอยู่กับมลพิษตลอดเวลา เนื่องจากมีหน้าที่กรองของเสียออกจากกระแสเลือด การทรุดโทรมของไตจึงเกิดขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน
ปัญหาคือ ผู้ป่วยไม่ทราบว่าตัวเองเป็นโรคไต ไตเสียไปครึ่งหนึ่งแล้วก็ยังไม่มีอาการ เพราะโรคไตระยะแรกๆ จะไม่แสดงอาการ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ตรวจพบว่าเป็นโรคไต ระดับของโรคก็อยู่ ระดับ 4 แล้ว
ซึ่งประสิทธิภาพของไตได้ลดลงไปแล้วกว่าร้อยละ 70
โรคไตเป็นโรคที่หากไม่ได้รับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอจะไม่มีทางรู้ได้เลย เป็นหมอไตเองก็ไม่รู้ว่ามีโรคไตอยู่ถ้าไม่เช็คตัวเอง
อาการของโรคไตที่สังเกตได้
💥ปัสสาวะเป็นเลือด หรือ สีแดง
ปัสสาวะขุ่น อาจเกิดจากมี เม็ดเลือดแดง (ปัสสาวะเป็นเลือด) เม็ดเลือดขาว (มีการอักเสบ) มีเชื้อแบคทีเรีย (แสดงว่ามีการติดเชื้อ) หรืออาจเกิดจากสิ่งที่ร่างกายขับออกจากไต แต่ละลายได้ไม่ดี เช่น พวกผลึกคริสตัลต่างๆ เป็นต้น
💥ปัสสาวะบ่อย หรือแสบขัด ต้องเบ่ง
การผิดปกติของการถ่ายปัสสาวะ เช่นการถ่ายปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบ ปัสสาวะราด เบ่งปัสสาวะ อาการเหล่านี้ ล้วนเป็นอาการผิดปกติ ของระบบทางเดินปัสสาวะ เช่นกระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมาก และท่อทางเดินปัสสาวะ
การปวดท้องอย่างรุนแรง (colicky pain) ร่วมกับการมีปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะขุ่น หรือมีกรวดทราย แสดงว่าเป็นนิ่วในไต และทางเดินปัสสาวะ
💥ปวดหลังเรื้อรังบริเวณไต มีไข้หนาวสั่น
การมีก้อนบริเวณไต หรือบริเวณบั้นเอวทั้ง 2 ข้าง อาจเป็นโรคไต เป็นถุงน้ำการอุดตันของไต หรือเนื้องอกของไต
การปวดหลัง ในกรณีที่เป็นกรวยไตอักเสบ จะมีอาการไข้หนาวสั่น และปวดหลังบริเวณไต คือ บริเวณสันหลังใต้ซี่โครงซีกสุดท้าย
💥ความดันโลหิตสูงเรื้อรัง
ความดันโลหิตสูง เนื่องจากไตสร้างสารควบคุมความดันโลหิต ประกอบกับไต มีหน้าที่รักษาสมดุลของน้ำ และเกลือแร่ในร่างกาย เพราะฉะนั้นความดันโลหิต สูงอาจเป็นจากโรคไตโดยตรง หรือในระยะไตวายมากๆ ความดันโลหิตก็จะสูง ได้
ทางเลือกผู้ป่วยไต บำรุง ฟื้นฟูไต ปลอดภัย
ไม่มีผลข้างเคียง คลิ๊กเลย http://www.hrtexo.com/umikidney